หลังจากรอคอยกันมานาน MG5 ใหม่ที่มาพร้อมกับดีไซน์อันโดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน จะถึงคิวเปิดตัวอย่างเป็นทางการในรูปแบบออนไลน์ (Online Launch) ในวันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 19.00 น. ผ่านช่องทาง Official Facebook Page : MG Thailand

ก่อนที่จะได้ลองขับจริง เรามาสำรวจกันดูก่อน ว่ารถ MG รุ่นใหม่ล่าสุดคันนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง โดยคาดว่า MG5 จะเข้าไปแข่งขันกับเจ้าตลาดในกลุ่ม B-segment เช่น Toyota Vios, Honda City และ Mazda2

Advertisement

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ALL NEW MG5

การออกแบบ

ALL NEW MG5 มาพร้อมกับกระจังหน้าแบบ 3 มิติ และ ตัวถังเพรียวยาวตามสไตล์รถยนต์สปอร์ตคูเป้ซีดาน
• มิติ 4,675 x 1,842 x 1,480 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)• ระยะความยาวฐานล้อ 2,680 มิลลิเมตร• กระจังหน้า 3 มิติ Digital Burning Grille• ไฟหน้าเปิด-ปิด อัตโนมัติแบบ LED Projector• ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)• ไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ Leopard Claw และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED• ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ใบพัด 5 ก้าน

ห้องโดยสาร
ALL NEW MG5 มีการออกแบบในสไตล์สปอร์ตแต่ยังมีจุดเด่นในเรื่องความกว้างของพื้นที่ห้องโดยสาร และมีพื้นที่เหนือศีรษะ (Headroom) ที่สูงโปร่ง พร้อมหลังคาซันรูฟ การตกแต่งภายในสไตล์สปอร์ต มีการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและฟังก์ชั่นที่ตอบไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งาน• เบาะหนังทรงสปอร์ตโอบรับสรีระ • เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง• แผงคอนโซล 3D Diamond Design ลวดลายสปอร์ตพรีเมี่ยม• หลังคา Sunroof• หน้าจอ Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว• หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์• กระจกมองหลังแบบตัดแสง• ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง• ลำโพง 6 จุด• รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android • ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start• ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล• ระบบกรองอากาศ PM 2.5

เครื่องยนต์และช่วงล่าง
เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8-สปีด พร้อมระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และระบบที่ส่งเสริมการขับขี่ในด้านต่างๆ • ดีไซน์คอนโซลกลางแบบ DRIVER-FOCUS COCKPIT• หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิตอล• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ปรับน้ำหนักได้ 3 ระดับ• ระบบพวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)• ระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง• ระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam• ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)

ระบบความปลอดภัย
โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF (Full Space Frame) และให้ความมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วย Synchronized Protection System ระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป• ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Brake System) • ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution) • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่องเหยียบเบรกค้าง (Auto Vehicle Hold)• ระบบระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System) • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)• ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)• ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)• ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง

เทคโนโลยี
ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์เอ็มจีให้สะดวกสบาย ปลอดภัย และเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตัล พร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Digital Key สามารถใช้งานรถผ่านกุญแจดิจิตอลโดยรับ – ส่ง โค้ดจากแอพพลิเคชัน i-SMART สามารถสั่งการเปิด-ปิด และสตาร์ทรถยนต์ รวมถึงการส่งกุญแจดิจิตอลให้กับผู้อื่นเพื่อใช้งานรถยนต์ผ่านแอพพลิเคชั่น i-SMART Smart Command หรือ ระบบสั่งการอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย• กุญแจดิจิตอล• ระบบสั่งการผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทย • ควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน• ค้นหาข้อมูลจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ และวางแผนการเดินทางTravel Plan จากสมาร์ทโฟนส่งเข้าหน้าจอทัชสกรีนของรถได้• โทรออก – รับสายจากจอทัชสกรีน • สามารถติดต่อ MG Call Centre เพื่อสอบถามข้อมูล หรือขอรับจุดน่าสนใจ (Point Of Interest) ด้วยปุ่มลัดบนพวงมาลัย Smart Connect หรือ ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ ประกอบไปด้วย• เล่นเพลงทั้งรูปแบบออนไลน์ และสตรีมมิ่ง • ค้นหาร้านอาหาร ที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวบนแผนที่นำทาง• รายงานการจราจรแบบ Real Time • เรียกดูข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน และข้อมูลพยากรณ์สภาพอากาศ • อัพเกรดระบบต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ (FOTA)Smart Check หรือ ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย• ตรวจสอบสถานะของประตูรถ• ตรวจสอบตำแหน่งของรถ พร้อมบอกเส้นทางไปยังรถยนต์ผ่านฟังก์ชั่น FIND MY CAR โดยกำหนดให้รถเปิดไฟหน้า ไฟท้าย หรือใช้เสียงแตรผ่านการตั้งค่า• ตรวจสอบความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทำงานของรถ เช่น เครื่องยนต์ ลมยาง และถุงลมนิรภัย • ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ• ระบบแจ้งเตือนเมื่อความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบการทำงาน หรืออุปกรณ์ของรถ• กำหนดขอบเขตการใช้รถได้ตั้งแต่ 500 ม. ถึง 10 กม. โดยระบบจะแจ้งเตือนเมื่อรถเข้า – ออก ในขอบเขตที่กำหนดไว้

*อุปกรณ์ที่ติดตั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น

ALL NEW MG5 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น รุ่น C รุ่น D และรุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีเหลือง (Nuclear Yellow) สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเงิน (Silver Metallic) สีแดง (Scarlet Red) และสีเทา (Metal Ash Grey)