บีเอ็มดับเบิลยูเตรียมเปิดตัว iX รถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับเรือธงของแบรนด์ ในตลาดหลักทั่วโลกเริ่มต้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนประเทศไทยคาดว่าจะเข้ามาภายในต้นปีหน้า
โดยในช่วงแรกนี้จะมีรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้าแบบสองมอเตอร์ สองรุ่นย่อยประกอบด้วย – iX xDrive50 กำลังรวมสูงสุด 523 แรงม้า แรงบิด 735 นิวตัน-เมตร (อัตราการใช้ไฟฟ้าตามมาตรฐาน WLTP 23.0 – 19.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100กม.) และ iX xDrive40 กำลังสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิด 630 นิวตัน-เมตร (อัตราการใช้ไฟฟ้าตามมาตรฐาน WLTP 22.5 – 19.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100กม.) บริษัทฯอ้างว่าเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ใหม่ล่าสุด ช่วยเพิ่มระยะทางขับเคลื่อนสูงสุดตามมาตรฐาน WLTP ได้มากึง 630 กิโลเมตร สำหรับ iX xDrive50 และ 425 กิโลเมตร สำหรับ iX xDrive40
แบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนใหม่ล่าสุด ความสามารถในการกักเก็บพลังงานในระดับเซลล์เพิ่มขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ใช้ในบีเอ็มดับเบิลยู i3 รุ่นปี 2020 บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 มาพร้อมแบตเตอรี่แรงดันสูงที่มีความจุพลังงานสุทธิ 105.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง (ความจุพลังงานรวม 111.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง) ส่วนแบตเตอรี่แรงดันสูงในบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 มีความจุพลังงานสุทธิ 71 กิโลวัตต์ชั่วโมง (ความจุพลังงานรวม 76.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง)

อัตราเร่งจาก 0-100กม./ชม. ที่เคลมไว้คือ 4.6 วินาที และ 6.1 วินาที ตามลำดับ
นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ยังเตรียมเปิดตัว iX M60 มาร่วมไลน์อัพ (อัตราการใช้ไฟฟ้าตามมาตรฐาน WLTP 21.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100กม.) มีกำลังสูงสุด 600 แรงม้า ในอนาคตด้วยเช่นกัน

ไฮไลท์ภายในเริ่มด้วย ระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 ที่ออกแบบสำหรับทำงานร่วมกับจอระบบสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display รองรับการโต้ตอบด้วยเสียงกับ BMW Intelligent Personal Assistant ซึ่งได้รับการอัปเกรดจากรุ่นก่อนหน้า โดยจอ BMW Curved Display เป็นกลุ่มจอแสดงผลดิจิทัลซึ่งประกอบไปด้วย จอ Information Display ขนาด 12.3 นิ้วและจอ Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว รวมเข้าด้วยกันภายใต้แผงกระจกชิ้นเดียวที่หันหน้าเข้าหาผู้ขับขี่ ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ดิจิทัลมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่และแสดงกราฟฟิกดีไซน์ใหม่ขณะสื่อสารกับผู้ใช้งาน
บีเอ็มฯแจ้งว่ารถไฟฟ้าเจนใหม่นี้ ใช้เทคโนโลยี 5G ในการรับส่งข้อมูล อีกทั้งยังสามารถส่งข้อมูลจากมือถือไปยังรถยนต์โดยใช้ eSIM ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีใหม่ที่บุกเบิกมาพร้อมกับบีเอ็มดับเบิลยู iX
ชุดเทคโนโลยีใหม่ในบีเอ็มดับเบิลยู iX ยังปูทางสู่การพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติและระบบช่วยเหลือการเข้าที่จอดต่าง ๆ เพื่อก้าวสู่ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 3 มาพร้อมเซนเซอร์เจเนอเรชั่นใหม่ ซอฟต์แวร์ใหม่ และแพลตฟอร์มในการประมวลผลที่ทรงพลัง ใช้กล้อง 5 ตัว เรดาร์เซนเซอร์อีก 5 ตัว และอัลตร้าโซนิกเซนเซอร์ 12 ตัวในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบคัน
รถรุ่น iX ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และนวัตกรรมหลากหลายที่สุดในบรรดารถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทั้งหมด ระบบเตือนการชนด้านหน้าสามารถตรวจจับการจราจรหน้ารถได้ขณะเลี้ยวซ้าย (สำหรับประเทศที่รถยนต์ขับด้านขวา) หรือตรวจจับจักรยานและคนเดินเท้าได้ขณะเลี้ยวขวา ลูกค้ายังสามารถเลือกติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน Steering and Lane Control Assistant ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go รวมถึงอีกสองระบบใหม่ล่าสุดอย่าง ระบบเตือนขณะเปิดประตูรถ ในกรณีที่มีจักรยานหรือคนเดินเท้าอยู่ใกล้ประตูรถ (Exit warning function) และระบบ Remote Theft Recorder ซึ่งมาเสริมการทำงานของระบบที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานอย่างระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant) ซึ่งประกอบด้วยกล้องมองหลัง (Reversing Assist Camera) และระบบช่วยถอยหลัง (Reversing Assistant)

นอกจากระบบการจำลองเสียงเพื่อเตือนคนเดินถนน บีเอ็มดับเบิลยู iX ยังมาพร้อมเสียงประกอบการขับขี่ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ฟังก์ชั่น BMW IconicSounds Electric ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ยังมาพร้อมตัวเลือกเสียงใหม่ล่าสุดจากนักแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Hans Zimmer
สำหรับชุดเครื่องเสียง Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound System นั้น มีลำโพงฝังอยู่ในพนักพิงศีรษะ และระบบเสียงแบบ 4D ที่มีฟังก์ชั่นสั่นตามเสียงเบสในเบาะหน้า
