งาน FAST Auto Show Thailand 2019 จะประกอบไปด้วยผู้ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ 11 รายและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มือสอง 18 รายที่งานแสดงสินค้าและการแสดงสินค้านานาชาติกรุงเทพ (ใบเทค) ระหว่างวันที่ 26-30 มิถุนายนนี้
นาย พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานคณะกรรมการจัดงานกล่าวว่า ยอดขายรถใหม่ในงานคาดว่าจะถึง2,000คัน นอกเหนือจากรถยนต์ที่ใช้แล้วอีก 1,000 คัน คาดว่าจะมีมูลค่าถึง 2.5 พันล้านบาทในขณะที่คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 250,000 คนซึ่งต้องใช้เงินลงทุน 80 ล้านบาทในการจัดงาน
นายพัฒนเดชกล่าวว่าเสถียรภาพทางการเมืองที่ดีขึ้นในประเทศจะช่วยส่งเสริมยอดขายในงานปีนี้ “สิ่งนี้จะช่วยยกระดับการใช้จ่ายของผู้บริโภคและเศรษฐกิจไทยมีทิศทางที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันสอดคล้องกับทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย” เขากล่าว “ในขณะเดียวกัน บริษัท รถยนต์ต่างก็เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และแคมเปญการขายอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี”
นายพัฒนเดช กล่าวเสริมว่า การจัดงาน ฟาสต์ ออโต้ โชว์ ไทยแลนด์ 2019 ในปีนี้ มีความตั้งใจที่จะให้งานนี้ เป็นเหมือนเวทีกลางในการพบปะกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ใหม่ หรือรถยนต์ใช้แล้ว ที่ต้องการซื้อหรือขายก็สามารถเดินชมงานได้ทั้งสิ้น โดยมีผู้สนับสนุนที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว พึงพอใจทุกฝ่าย พร้อมการจัดแคมเปญพิเศษมากมาย ตลอดการจัดงานทั้งจาก ผู้ประกอบการ สถาบันการเงิน จากปัจจัยต่าง ๆ ที่สนับสนุนการจัดงาน ในครั้งนี้ เรามั่นใจว่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ ของประเทศทั้งในช่วงกลางปี และต่อเนื่องตลอดทั้งปี และยังมีส่วนผลักดัน ให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเติบโตได้แน่นอน

นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ฝ่ายรถใหม่ กล่าวว่า ผู้ประกอบการรถยนต์ใหม่ ปีนี้ มีจำนวน 11 แบรนด์ชั้นนำ โดยในงานปีนี้คาดว่าจะมีการนำรถยนต์รุ่นใหม่มาร่วมงานเป็นครั้งแรก หลายรุ่น อาทิ MG, Approved Certified Used Car by MG, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, MAZDA, AUDI, MITSUBISHI, NISSAN, SUZUKI, SUBARU, TOYOTA ขณะที่ค่ายรถยนต์แต่ละค่ายได้เตรียมแคมเปญพิเศษสำหรับงานนี้อย่างมากมาย และเมื่อรวมกับแคมเปญของผู้สนับสนุนอย่าง “กรุงศรี ออโต้” ที่สนับสนุนเราอย่างต่อเนื่อง ก็เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคที่เข้ามาชมงานได้อย่างแน่นอน รวมถึงการจัดทำรายการส่งเสริมการขายภายในงานจะสามารถกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคที่เข้าร่วมงานได้เป็นอย่างดี
นายอัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ รองประธานจัดงาน ฝ่ายรถยนต์ใช้แล้ว กล่าวว่า มีผู้ประกอบการรถยนต์มือสองในปีนี้เพิ่มขึ้น 2 ราย ได้แก่ Panda Speed, BB SmartCar ซึ่งจากเดิมปีที่แล้ว มีจำนวนทั้งสิ้น 16 ราย ได้แก่ วิสาร ออโต้คาร์, DDS คาร์เซ็นเตอร์, โย รัชดา, ศูนย์รถยนต์ 54 นิวัฒน์, THE ONE, CarDeeSureOK, เจ มอเตอร์เทรด, อมรวารันตี โดยเบนซ์อมรรัชดา, รถเศรษฐี, เบสท์ เซอร์วิส, 999 รถบ้านสุวิทย์ ถูกและดี, เก่ง พระราม 9, รถบ้านคุณเอ็กซ์ By AUTO MASTER, NBP CAR, A.T.CARSALE, UNIQUE AUTOCARS
สำหรับรถยนต์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อรถยนต์มือสองต่อเนื่องมาโดยตลอด คือ กลุ่มรถยุโรป โดยมาจากปัจจัยเอื้อหลายด้าน อาทิ ข้อเสนอพิเศษของผู้ประกอบการที่มอบให้ตลอดระยะเวลาการจัดงาน การอำนวยความสะดวกจากสถาบันการเงินในเรื่องการอนุมัติวงเงินที่รวดเร็ว และที่สำคัญที่สุดคือ ความเชื่อมั่นในการรับประกันการซื้อคืน 100% ของผู้จัด ตามเงื่อนไข 5 ข้อ คือ 1. ไม่ไฟไหม้ 2. ไม่จมน้ำ 3. ไม่มีการตัดต่อ 4. โอนทะเบียนได้ถูกกฎหมาย 5. ไม่มีการชนหนัก นอกจากนี้ ผู้ที่ซื้อรถยนต์มือสองทุกคันในงานยังจะได้รับบัตรกำนัลในการใช้บริการที่ “บี-ควิก” ซึ่งในปีที่ผ่านมา ได้รับเสียงตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี
นาย พรเทพ ธีระพันธ์ตระกูล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดและสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทนจากผู้สนับสนุนรายใหญ่ของงานกล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่สี่ที่กรุงศรีออโต้เป็นผู้สนับสนุนหลักของ FAST Auto Show ประเทศไทย
“ในอดีตเราใช้กลยุทธ์การตลาดแบบตรงไปยังผู้บริโภคสำหรับงานแสดงรถยนต์มากกว่า 20 รายการในกรุงเทพและต่างจังหวัดทุกปีและเราได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างมาก” เขากล่าว “ นี่เป็นการสะท้อนให้เห็นว่างานแสดงรถยนต์เป็นตลาดซื้อ-ขายที่ตอบสนองต่อผู้บริโภคในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่มีให้เลือกมากมายคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการส่งเสริมการขายที่เหมาะสมกับผู้บริโภค FAST Auto Show Thailand เป็นงานมอเตอร์โชว์ครั้งสำคัญที่จะดึงดูดผู้บริโภคและช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ทั้งรถยนต์ใหม่และรถยนต์มือสองในช่วงกลางปี”
เขากล่าวเสริมว่าตลาดรถยนต์จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้แม้จะไม่รุนแรงเหมือนปีที่แล้ว “ เราคาดการณ์ว่าในปีนี้ประเทศไทยจะมียอดขายรถยนต์ใหม่ 1.05 ล้านถึง 1.08 ล้านคันโดยมีอัตราการเติบโตตั้งแต่ 1% ถึง 4% อันที่จริงนี่เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงและได้รับการสนับสนุนจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ รวมถึงการเพิ่มจำนวนรถยนต์มือสองเข้าสู่ตลาดและแคมเปญต่าง ๆ ที่เจาะกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์ในช่วงกลางปี ”