มินิ ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ “มินิ คูเปอร์ เอสอี” ซึ่งได้เผยโฉมในประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยจะเปิดให้ลูกค้าพรีออเดอร์ผ่านช่องทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 14:14 น. เป็นต้นไปทางเว็บไซต์ www.mini.co.th ในจำนวนจำกัดเพียง 25 คันเท่านั้นซึ่งในตอนนี้ได้ขายหมดเป็นที่เรียบร้อย
รถยนต์ไฟฟ้า MINI คันแรกที่มีราคา 2,290,000 บาทรวมแพคเกจ MSI Standard (3 ปี / 60,000 กม. และการบำรุงรักษา 3 ปี / ไมล์สะสมไม่ จำกัด ระยะทาง)
นายปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นตลาดแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่จะต้อนรับการมาถึงของ MINI Cooper SE ซึ่งจะช่วยในการขับเคลื่อนของสังคมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย”

Cooper SE ใช้ตัวถัง 3 ประตูขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมชุดอิเล็กทรอนิกส์กำลังและเกียร์ในตำแหน่งด้านหน้าของโครงรองรับโดยโครงสร้างท่อแข็ง ชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 32.6-kWh มี 12 โมดูลที่ประกอบเป็นชุดรูปตัว T
MINI อ้างว่าจุดศูนย์ถ่วงของรถนั่นอยู่ต่ำ (ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาและตำแหน่งของแบตเตอรี่) ทำให้การขับขี่คล่องตัว และทำให้ง่ายต่อการควบคุมแม้เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง

การที่แบตเตอรี่ถูกซ่อนไว้ในพื้นรถ ทำให้มีที่ว่างสำหรับพื้นที่เก็บสัมภาระมากขึ้นเช่นกัน
มอเตอร์ไฟฟ้าผลิตกำลังสูงสุด 184 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตรที่พร้อมใช้งานจากหยุดนิ่ง อัตราเร่งความเร็วจาก 0-100km / h ใช้เวลา 7.3 วินาทีในขณะที่ความเร็วสูงสุดถูกจำกัไว้ที่ 150กม./ชม. ระยะทำการเคลมไว้ที่ 217 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ NEDC)

มีโหมดการขับขี่สี่โหมดให้เลือก – Sport, MID, GREEN และ GREEN + ซึ่งฟังก์ชั่นความสะดวกสบายที่เลือกเพิ่มเติมเช่นการทำความร้อนการปรับอากาศและการอุ่นที่นั่งจะถูก จำกัด หรือปิดใช้งานเพื่อเพิ่มช่วงของยานพาหนะ
มอเตอร์ทำงานเงียบดังนั้น MINI EV จึงถูกติดตั้งตามมาตรฐานพร้อมระบบป้องกันคนเดินเท้า ระบบสร้างเสียงที่โดดเด่นที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับ Cooper SE และเล่นผ่านระบบลำโพงภายนอก

เจ้าของรถสามารถชาร์จแบตเตอรี่โดยใช้สายชาร์จมาตรฐานหรือ MINI ELECTRIC Wallbox ที่มีความจุสูงสุด 11 kW – ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในเวลาสองชั่วโมงครึ่งและ 100 เปอร์เซ็นต์ในสามชั่วโมงครึ่ง สถานีชาร์จไฟ DC ที่รวดเร็วช่วยให้พลังงานของแบตเตอรี่ฟื้นฟูได้เร็วยิ่งขึ้น หน่วยการชาร์จมีความจุการชาร์จสูงสุด 50 กิโลวัตต์ทำให้สามารถชาร์จได้ร้อยละ 80 ภายใน 36 นาที

นอกจากนี้ยังมีบริการติดตั้งร่วมกับ MINI ELECTRIC Wallbox wallbox สามารถติดตั้งได้ในโรงรถและในพอร์ตรถยนต์ MINI แจ้งว่าบริการ ChargeNow ยังมีให้เพื่อความสะดวกในการชาร์จสูงสุดช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงเครือข่ายสถานีชาร์จสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ภายในมีหน้าจอสีดำขนาด 5.5 นิ้วทำหน้าที่เป็นแผงหน้าปัดด้านหลังพวงมาลัยและยังมีหน้าจอสัมผัสขนาด 6.5 นิ้วบนคอนโซล